วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

น้องฝน

เลาะรั้วโรงเรียน


ก่อนอื่นตั้งขอกราบสวัสดีมิตรรักแฟนคลับ 3 เกลอ แห่งเลาะรั้วโรงเรียนทุกท่าน (มีด้วยหรอ ? ) ก็มาพบกันอีกครั้งกับการแนะนำและนำเสนอเยาวชนคนดีคนเก่งที่มีความสามารถมาประกาศให้โลกรู้กันไปเลยว่าเด็กระยองเราเจ๋งกันขนาดไหน ฉบับนี้ก็เช่นกัน 3 เก
ลอเรา ได้ค้นพบเจอเพชรเม็ดงามเป็นเหงือกสาว แห่งโรงเรียนรุ่งนภาพิทยา ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง


เมื่อไปถึงสระว่ายน้ำโรงเรียนรุ่งนภาพิทยา ก็ได้พบเหงือกสาวหน้าตาหน้ารักชื่อ ด.ญ.วราการต์ หรือน้องฝน อนุกูลวรรธกะ อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนรุ่งนภาพิทยา ความสามารถสุดเจ๋งของน้องฝนคือความสามารถด้านกีฬาว่ายน้ำ ทั้งท่าฟรีสไตล์ ท่ากบ ท่ากรรเชียง และท่าผีเสื้อ น้องฝนบอกกับเราว่ามีความสนใจในกีฬาว่ายน้ำเป็นอย่างมากและเริ่มว่ายน้ำตั้งแต่อายุได้ 6 ขวบ โดยความสนับสนุนของคุณพ่อสิทธิชัยและคุณแม่กาญจนา อนุกูลวรรธกะ น้องฝนได้รางวัลจากการลงแข่งขันว่ายน้ำในรายการต่างๆมากมายและมีรางวัลที่ภาคภูมิใจหลายรายการ เช่น รางวัล รองชนะเลิศ การแข่งขันว่ายน้ำเมืองพัทยา อายุไม่เกิน 10 ปี รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมอันดับ 1 การแข่งขันว่ายน้ำมหกรรมกีฬาบ้านฉาง นักกีฬายอดเยี่ยมอันดับที่ 1 รุ่น 11 ปีหญิง รายการอู่ราชนาวีมหิดลอดุลย์เดชแชมป์เปียน ครั้งที่ 3 ปี 2552 รางวัลชนะเลิศการแข่งขันว่ายน้ำบ้านบึงแชมป์เปียนชิพ ครั้งที่ 1 จ.ชลบุรี และอีกหลายรายการ นอกจากนี้ยังมีเหรียญรางวัลจากการแข่งขันอีกเป็นกระสอบ (เป็นกระสอบจริงๆๆๆ) และสิ่งที่ภาคภูมิใจอีกอย่างหนึ่งก็คือการเป็นนักกีฬาที่ทำเวลาในการว่ายท่ากรรเชียง 25 เมตร ได้เวลาดีที่สุดในประเทศไทย ซึ่งใช้เวลา 16 วินาที และในอีกไม่นานน้องฝนจะลงแข่งขันกีฬาฐานทัพเรือสัตหีบ และการชิงแชมป์ภาคกลาง น้องฝนบอกกับ 3 เกลอว่าการที่ตนได้มาถึงจุดนี้ ได้เข้ามาเล่นกีฬาว่ายน้ำและได้ไปทำการแข่งขันต่างๆ และได้รางวัลมากมายจนสร้างชื่อเสียงให้ตนเอง ครอบครัว และโรงเรียนนั้นเป็นเพราะการสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่ และที่สำคัญจากอาจารย์ประวิทย์ จันทร์แก้ว อาจารย์ผู้ฝึกสอน ที่ช่วยฝึกซ้อมให้น้องฝนมีการพัฒนาฝีมือมากยิ่งขึ้น


อาจารย์ประวิทย์ เปิดเผยว่า น้องฝนเป็นเด็กร่าเริง มีระเบียบวินัยและขยันในการฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำ ซึ่งจะทำการฝึกซ้อมกันในเวลาหลังเลิกเรียน จึงทำให้ฝีมือมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตน้องฝนอาจจะได้แข่งขันในรายการที่ใหญ่ขึ้นต่อไป ซึ่งขณะนี้ทางโรงเรียนรุ่งนภาพิทยา โดย ผอ.วิชชุ มั่งคั่ง และ นางสาวเครือวัลย์ ปามา ครูใหญ่โรงเรียนรุ่งนภาพิทยา ให้การสนับสนุนกิจการทางกีฬาอย่างเต็มที่ ไม่ใช่แต่กีฬาว่ายน้ำเท่านั้นรวมถึงกีฬาอื่นๆก็มีการสนับสนุนด้วย แต่สิ่งที่อาจารย์ประวิทย์บอกกับเราด้วยความเป็นห่วงว่า น้องฝน เป็นเด็กที่มีความสามารถ แต่ว่าทางจังหวัดระยองไม่มีโรงเรียนที่จะรองรับนักกีฬาต่อ กลัวว่าเด็กที่มีความสามารถเมื่อจบจากโรงเรียนไปแล้วจะไม่มีโรงเรียนที่จะรองรับและช่วยส่งเสริมและพลักดันให้เด็กที่มีความสามารถได้มีการพัฒนาฝีมือต่อไป เพราะทางโรงเรียนรุ่งนภาพิทยามีเพียงถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เท่านั้น จึงอยากจะให้ทางจังหวัดมีการสนับสนุนและมีสถานที่รองรับด้านการกีฬา เพื่อให้เยาวชนคนเก่งได้สานฝันของตนเอง


3 เกลอ เราเชื่อเหลือเกินว่ายังมีเยาวชนอีกหลายคนที่มีความสามารถที่รอการพัฒนา ขอแค่เพียงน้องๆมีความตั้งใจและขยันฝึกซ้อม ไม่ถอดใจในสิ่งที่ทำ น้องก็จะเดินเข้าไปใกล้ความฝันมากขึ้น อาจจะแค่วันละ 1 ก้าว แต่ถ้าเดินอยู่ทุกวันไม่กี่วันก็จะได้ไปถึงปลายฝันไว้ได้อย่างแน่นอน

น้องต้าร์

เลาะรั้วโรงเรียน



สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักยิ่งทุกท่าน เลาะรั้วโรงเรียนฉบับนี้ เรา 3 เกลอ พาท่านไปเลาะรั้วโรงเรียนที่โรงเรียนระยองวิทยาคม ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งฉบับนี้เราได้พาท่านผู้อ่านมารู้จักเด็กหนุ่ม หน้าตาดีหล่อตี๋มีเหล็กดัดฟัน แถมยังมีความสามารถที่ทำให้เรา 3 เกลอ อึ้งทึ้งกันเลยทีเดียว


เด็กหนุ่มหน้าตาดีชื่อ นายธนบัตร ตระกูลภูชัย หรือ ต้าร์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/4 สายวิทย์-คณิตโรงเรียนระยองวิทยาคม อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่าหนุ่มตาร์มีความสามารถขนาดไหน3 เกลอ ถึงได้นำมาลงไว้ในฉบับนี้ ถ้าไม่เจ๋งจริงหรือหญิงสวยเรา 3 เกลอก็คงไม่เอามาลงเป็นแน่ หนุ่มตาร์มีดีกรีเป็นถึงประธานนักเรียน และที่เจ๋งจนเราต้องยกนิ้วให้กับความสามารถก็ตรงที่ตอนอยู่ชั้นม.4 หนุ่มตาร์สอบได้นักเรียนแลกเปลี่ยนของ Afs (American Field Service) และได้ไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ AFS marathon highschool รัฐ Wisconsin ซึ่งไปร่ำเรียนเป็นเวลา 1 ปีเต็ม หนุ่มตาร์บอกว่าตอนไปเรียนแรกๆก็ไม่ได้เก่งภาษาอะไรมากอาศัยว่าต้องใช้บ่อยพูดบ่อยทำให้อยู่ๆไปก็กลายเป็นพูดได้อย่างสบาย และเมื่อครบ 1 ปีก็เดินทางกลับมาเรียนต่อชั้นม.6ที่โรงเรียนระยองวิทยาคมเช่นเดิม หนุ่มตาร์บอกว่าการที่ได้ไปเรียนที่ประเทศสหรัฐฯนั้นทำให้ตัวเองมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเพราะต้องรับผิดชอบตัวเองมากขึ้นและได้ประสบการณ์ต่างๆมากมาย


นอกจากหนุ่มต้าร์จะเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนแล้วหนุ่มต้าร์ยังได้ไปแข่งขันกฎหมายที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ภาคภาษาไทย) ซึ่งได้ที่ 5 ของประเทศ และแข่งขันที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ (ภาคภาษาอังกฤษ) ซึ่งก็ได้ที่ 4 ของประเทศ การแข่งขันได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากท่านมานิตย์ จันวัน ผู้อำนวยการโรงเรียนระยองวิทยาคม อ.สุวรรณ เพิ่มสมบัติ ผู้พาหนุ่มตาร์ไปแข่งขันและอาจารย์ประจำชั้นอีก 2 ท่าน คือ อ.ดำรงค์ ศิริภักดี และ อ.สุจิตรา สระมณี

เมื่อเราถามถึงเหตุผลที่ชอบเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายหนุ่มต้าร์บอกว่า เหตุผลที่ชอบเพราะว่าเหมาะกับตัวเองเพราะหนุ่มตาร์เป็นคนตรงๆ ชอบความยุติธรรม และได้เตรียมตัวรอสอบตรงเข้าสาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่ถ้าสอบไม่ติดจริงๆหนุ่มตาร์บอกว่าจะแพ็คกระเป๋าเดินเข้าเป็นศิษย์พ่อขุนทันที(มหาวิทยาลัยรามคำแหง) เพราะว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีดีกรีด้านวิชากฎหมาย ซึ่งหนุ่มต้าร์มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นผู้พิพากษา(ได้ดีอย่าลืมกันเน้อ)

เราจะเห็นได้ว่าคนเรานั้น แม้ไม่ได้เกิดมากับความอัจฉริยะ ไม่ได้มีสมองเหมือนกับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ไม่ได้มีพละกำลังเหมือน พี่ไก่ อุดมพร พลศักดิ์ (คงจำกันได้นักยกน้ำหนัก..สู้โว้ย­) แต่เรานั้นก็สามารถฝึกฝนความสามารถของเราให้พัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปได้ (หลักการนิดนึง) เพียงแค่เราลองค้นหาความใฝ่ฝันของเรานั้นว่าชอบอะไรและต้องการที่จะทำอะไร จากนั้นก็ทำมันให้ดีที่สุด แม้อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในครั้งแรก ก็อย่าพึ่งท้อถอย แต่ต้องสู้ต่อไปเพื่ออนาคตของเรา เพื่อพ่อแม่ (เพื่อพี่น้อง กูจะสู้สุดใจกล้า...เฮ้ยไม่ใช่แล้ว) และเมื่อเราประสบความสำเร็จนั่น พ่อแม่ ครู-อาจาร์ย ที่ได้สั่งสอน อบรมเรามาจะภาคภูมิใจในความสำเร็จของเรา แค่เราจำไว้ว่า “ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำ”


ยังไงก็ขอให้หนุ่มตาร์สอบติดในสาขาและมหาวิทยาลัยที่ชอบก็แล้วกันนะครับ(เก่งๆอย่างนี้ได้แน่) และต้องขอขอบคุณท่าน ผอ.มานิตย์และอาจารย์ทุกท่านที่มีส่วนในการสนับสนุนและผลักดันเยาวชนคนเก่งอย่างหนุ่มตาร์ และขอให้น้องๆเยาวชนดูหนุ่มตาร์ ธนบัตร ตระกูลภูชัย ไว้เป็นตัวอย่างหากน้องๆตั้งใจเรียนก็อาจมีสิทธิได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอย่างหนุ่มตาร์แน่นอน และนอกจากหนุ่มตาร์แล้วโรงเรียนระยองวิทยาคมยังมีเพชรเม็ดงามที่มีความสามารถอีกมาก ซึ่งในฉบับต่อไปเราจะนำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักกัน ขอให้น้องๆเยาวชนระยองเราตั้งใจเรียนและเป็นเด็กดีนะครับแล้วเรา 3 เกลอจะเดินทางไปหาพามาสัมภาษณ์ลงคอลัมน์.....รักนะเด็กฉลาด



สามเกลอ

ประกาศ
ถ้าอยากให้เราสามเกลอ ไปเลาะรั้วโรงเรียนที่ไหนหรือมีเยาวชนคนเก่งอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ก็สามารถติดต่อมาทางเราได้เราจะช่วยเป็นสื่อกลางเผยแพร่ความสามารถของเยาวชนเอง

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

น้องโย





กราบสวัสดีท่านผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน มาพบกับ 3 เกลอวัยซน( ฉัตร อั้น พับ ) ที่จะเสาะแสวงหาเยาวชนคนเก่งที่มีความสามารถตามโรงเรียนต่างๆในจังหวัดระยอง มานำเสนอแก่ผู้อ่านให้ได้รู้ว่าลูกหลานชาวระยองเราเป็นคนเก่งมีความรู้ความสามารถมากขนาดไหนกับคอลัมน์ เลาะรั้วโรงเรียน



เยาวชนคืออนาคตของชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ ข้อความที่คุ้นหูนี้แสดงให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่าประเทศชาติเราจะมั่นคงและแข็งแรงได้นั้นต้องเริ่มจากเยาวชนที่เป็นทั้งคนเก่งและคนดีฉบับนี้เราทั้ง 3 จึงพาท่านมารู้จักกับเยาวชนเพชรเม็ดงามในรั้วโรงเรียนระยองพาณิชยการ ซึ่งเป็นเยาวชนที่สร้างชื่อเสียงแก่โรงเรียน นายธนากร แสงกระจ่าง หรือ โย ที่เพื่อนๆรู้จักกันดี ปัจจุบันโยอายุ 19 ปี ศึกษาอยู่ระดับชั้น ปวส.2 (ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง) สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ งานเอกของโยก็คือ งานด้านกราฟฟิก



น้องโยได้กล่าวด้วยน้ำเสียงดีใจ ว่าทาง ดร.วรเทพ ภูมิภักดีพรรณ ผู้อำนวยการและโรงเรียนฯได้มีส่วนสนับสนุนและส่งเสริมโยในการเข้าแข่งขันคอมพิวเตอร์กราฟฟิก ซึ่งโยก็แสดงความสามารถคว้ารางวัลระดับที่ 4 ในระดับประเทศมาได้ และทางหัวหน้าแผนกสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ได้ส่งเข้าแข่งขันทักษะฝีมือแรงงานแห่งชาติในสาขากราฟฟิกก็สามารถคว้ารางวัล ที่ 2 ในระดับภาค และยังได้เป็นตัวแทนในระดับภาคเข้าแข่งขันในระดับประเทศ ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี เป็นการแข่งขันทักษะฝีมือแรงงานครั้งที่ 11 ซึ่งก็ได้รับรางวัลชมเชยมาอีกด้วย



นอกจากการแข่งขันคอมพิวเตอร์ด้านกราฟฟิคแล้วโยยังมีผลงานในด้านอื่นๆอีกด้วย เช่น โยเคยได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวด เดอะสตาร์ IRPC ครั้งที่ 3 ที่ผ่านมา และเมื่อตอนศึกษาอยู่ในระดับชั้น ปวช. ได้รับรางวัลผลการเรียนยอดเยี่ยมสูงสุดในสาขาคอมพิวเตอร์ เป็นรางวัลโล่ประกาศนียบัตรการศึกษาอีกด้วย ด้วยความเก่งและความสามารถของโยทำให้ทางโรงเรียนส่งโยเข้าประกวดนักเรียนพระราชทานในกลุ่มภาคตะวันออก และได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภาค จนทางโรงเรียนส่งประวัติและผลงานเข้าประกวดระดับประเทศ ซึ่งเป็นรางวัลใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เป็นรางวัลนักเรียนพระราชทานในกลุ่มการศึกษาขนาดกลาง ในเขตภาคตะวันออก เขตพื้นที่การศึกษาที่ 1 จ.ระยอง



น้องโยยังเสริมอีกว่ารางวัลที่ภูมิใจมากที่สุดในชีวิตก็คือรางวัลนักเรียนพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เพราะเป็นรางวัลที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ครอบครัว และทางโรงเรียนเป็นอย่างมาก ซึ่งทางโรงเรียนได้ส่งนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันในโครงการนี้หลายปีแล้ว แต่เป็นปีแรกที่ได้รางวัลพระราชทาน โดยรางวัลนี้มีการประเมินเป็นเวลาเกือบครึ่งปี ซึ่งรางวัลนี้โยได้ตอนศึกษาอยู่ในระดับชั้น ปวส.1นอกจากเรื่องเรียนและความสามารถด้านต่างๆแล้วน้องโยยังรู้จักช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ด้วยการขายของอยู่ที่ตลาดนัดสตาร์อีกด้วยถ้าใครผ่านไปก็ช่วยอุดหนุนน้องโยด้วยนะครับ
ท้ายสุดนี้น้องโยได้ฝากข้อคิดดีๆให้กับพี่ๆน้องๆเยาวชนคนระยองทุกคนไว้ว่า “ การศึกษานี้จะติดตัวเราไปตลอดไม่ว่าจะไปทำอาชีพอะไร หรืออายุเท่าไร ก็ไม่มีใครเอาความรู้ที่ติดตัวของคุณไปได้ นอกจากคุณเอาความรู้ไปใช้ในสิ่งที่ผิด และขอให้พี่ๆน้องๆ ทุกคนขยันและตั้งใจเรียนและเป็นคนดีของพ่อแม่ เพราะถ้าเราตั้งใจทำอะไรแล้วความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินตัวเรา”



ต้องขอปรบมือดังๆให้กับน้องโย ธนากร แสงกระจ่าง หนุ่มหน้าใสจากโรงเรียนระยองพาณิชยการ กับความเก่งและความสามารถ ที่ส่งผลให้โยได้รางวัลต่างๆมากมาย ยังไงก็ขอฝากน้องๆเยาวชนทุกคนได้ดูโยเป็นตัวอย่าง อย่าไปหลงกับอะไรที่จะพาตัวเราไปในทางที่ไม่ดี อยากเป็นคนเก่ง อยากเป็นคนดี ต้องเริ่มจากวันนี้ที่ตัวเรา

3 เกลอ รายงาน


น้องพิมพ์


เลาะรั้วโรงเรียน
สวัสดีท่านผู้อ่านที่เคารพรักเดือนนี้ก็มาพบกันอีกครั้งกับเรา 3 เกลอ ที่จะพาทุกท่านไปพบกับเยาวชนคนเก่งเหมือนเดิม กับการ เลาะรั้วโรงเรียน ตามหาเยาวชนที่มีความสามารถมานำเสนอให้กับท่านผู้อ่านได้รู้จักและครั้งนี้เราพาอ่านผู้อ่านมารู้จักสาวน้อยหน้าตาน่ารักจากโรงเรียน วัดป่าประดู่ กับ น้องพิม น.ส.มนต์ ธิดา เกศวพิทักษ์ นักเรียนชั้น ม.5/6 อายุ 16 ปี
น้องพิม สาวน้อยน่ารักอัธยาศัยดี พูดจาคล่องแคล่ว ยิ้มเก่ง เป็นมือคีย์บอร์ดประจำวง P.D. Band วงลูกทุ่งของโรงเรียนวัดป่าประดู่ โดยน้องพิมเข้ามาร่วมกับวงตั้งแต่ตอนอยู่ชั้นม.2 ด้วยความรักในการเล่นดนตรีและได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากครอบครัว น้องพิมเล่าให้เราฟังว่าเริ่มต้นก่อนที่จะมาเป็นวงดนตรี P.D. Band ในทุกวันนี้เริ่มจากอาจารย์มานพ วงษ์พิทักษ์อาจารย์ผู้ควบคุมวงได้พาสมาชิกในวงไปดูการแข่งขันดนตรีในโครงการ ยามาฮ่า คอนเทสต์ ถึงกรุงเทพฯ ซึ่งทำให้ทุกคนเกิดแรงบันดาลใจและอยากที่จะตั้งวงดนตรีจึงปรึกษากันกับอาจารย์มานพและได้ก่อตั้งวงขึ้นมาในทึ่สุด และได้เริ่มตั้งวงกันมาเรื่อยๆ โดยในครั้งแรกมีสมาชิกวงทั้งสิ้น ประมาณ 10 คน จนในปัจจุบันมีสมาชิกหลายสิบคนโดยมีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกอยู่ตลอดรุ่นสมาชิกที่จบไปแล้วก็รับรุ่นน้องเข้ามาฝึกหัดกันต่อไป
ผลงานที่โดดเด่นน้องพิมกล่าวกับเราด้วยความภาคภูมิใจ คือรางวัลรองแชมป์ฤดูฝนในการแข่งขันวงดนตรีในรายการชิงช้าสวรรค์ทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ที่มีการออกอากาศทุกวันเสาร์เวลา 16.00 -18.00 น. และอีกรางวัลแห่งความภาคภูมิใจคือได้รับถ้วยประทานรางวัลชนะเลิศจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาในการประกวดวงดนตรีลูกทุ่งเยาวชน “แชมป์ชิงแชมป์”ในงานมหาสงกรานต์ อาหารรสดี ประเพณีรดน้ำ อุดรธานี ประจำปี 2552 และได้รับคะแนนในระดับ “พิณเงิน” จาการประกวดวงดนตรียามาฮ่าลูกทุ่งคอนเทสต์ครั้งที่ 3 (รอบคัดเลือก) ประจำปี 2546
น้องพิมยังกล่าวต่อกับเราว่าในก่อนการแข่งขันในทุกครั้งจะต้องทำการซ้อมกันอย่างหนักทำให้บางครั้งไม่ได้เรียน แต่ทางอาจารย์ก็ได้มาสอนพิเศษให้ทำให้สามารถเรียนตามเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆได้ทัน โดยในการซ้อมอาจารย์มานพจะเป็นผู้จัดแบ่งเวลาให้กับเด็กเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับเรื่องเรียน โดยบางครั้งต้องมีการนัดกันมาซ้อมในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ซึ่งน้องพิมสามารถแบ่งเวลาในการเรียนและการซ้อมดนตรีได้เป็นอย่างดีและผลการเรียนของน้องพิมก็ถือว่าดีเลยทีเดียวซึ่งในการแข่งขันแต่ละครั้งได้รับการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากนายสมพงษ์ น้อยสุขขี ผู้อำนวนการโรงเรียนวัดป่าประดู่ที่เล็งเห็นความสำคัญของเพลงลูกทุ่งและความสามารถที่มีในตัวเด็ก
3 เกลอ ได้มีโอกาสนั่งฟังน้องพิมและเพื่อนๆวง P.D. Band เล่นดนตรี บอกได้คำเดียวเลยทึ่งกับความสามารถของน้องๆวัดป่าประดู่จริงๆ เล่นกันได้เหมือนมืออาชีพเลยทีเดียว น้องๆ คนไหนที่มีความฝันของตัวเองก็ขอให้ทำสำเร็จแล้วกันนะครับ ยังไงก็ขอปรบมือดังๆให้กับเยาวชนคนเก่งอย่างน้องพิม มนต์ธิดา เกศวพิทักษ์ สาวน้อยมือคีย์บร์อดประจำวง P.D. Band แห่งโรงเรียนวัดป่าประดู่ กับความสามารถในการเล่นดนตรีและยังไม่ขาดตกบกพร่องในเรื่องการเรียนอีกด้วย และขอขอบคุณอาจารย์มานพ วงษ์พิทักษ์ อาจารย์ผู้ควบคุมวง และ นายสมพงษ์ น้อยสุขขี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดป่าประดู่ที่ให้การสนับสนุนและเห็นคุณค่าของศิลปะบทเพลงลูกทุ่งไทย และที่สำคัญที่สุดคือการสนับสนุนเยาวชนคนเก่งและผลักดันให้น้องๆได้แสดงออกถึงความสามารถที่มีอยู่ในตัวและยังสามารถรับเล่นดนตรีในงานต่างๆทำให้นักเรียนมีรายได้แบ่งเบาภาระของพ่อแม่อีกทาง
ส่วนในฉบับหน้า 3 เกลอเราจะพาท่านไปเลาะรั้วโรงเรียนที่ไหน และจะพาท่านไปพบกับเยาวชนคนเก่งคนใด มีความสามารถด้านไหน และโรงเรียนใดนั้นคงต้องรอติดตามกับคอลัมน์เลาะรั้วโรงเรียนในฉบับหน้ากันนะครับ



วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สวัสดีครับ พวกเรา "สามเกลอ

พวกเรา "สามเกลอ แห่งเลาะรั้วโรงเรียน" พร้อมแล้ว ที่จะมานำเสนอความสามารถของเยาวชนคนเก่ง ของแต่ละโรงเรียน ให้ทุกท่านได้รับชมกัน






ก่อนอื่นพวกเราอยากให้ทุกคนรู้จักประวัติและที่มาของการเป็น "สามเกลอ" ได้อย่างไร?

-อมรเทพ (อั้น) หนองใหญ่
-ฉัตรชัย (ฉัตร) สายจีน
-สามรถ (พับ) บุญมา


การมารวมตั้วนั้นต้องย้อนไปในสมัยที่ อั้นกับพับ นั้นได้เข้ามาทำงานผู้สื่อข่าวใหม่ๆ ในสำนักงานหนังสือพิมพ์ข่าวระยอง จึงได้มาพบกับฉัตร ซึ่งในตอนนั้นกำลังฝึกงานที่นี่อยู่ ทำให้มีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน คุยภาษาเดียวกัน จึงเกิดความคิดว่าเราควรจะรวมตัวกันโดยใช้ชื่อว่า "สามเกลอ" เพื่อทำอะไรสักอย่างหนึ่งให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม จึงได้คิดทำคอลัมน์ "เลาะรั้วโรงเรียน" เพื่อที่จะนำเสนอความสามรถของเยาวชนคนเก่งของแต่ละโรงเรียนให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความสามรถของเด็กระยอง